วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[HxH] เยี่ยมบ้านเกิดตัวละคร ตอนที่ 2 เกาะโรแมนติกสีฟ้าขาวแห่งเมดิเตอร์เรเนียน

ยังคงอยู่กับบทความในหัวข้อ "เยี่ยมบ้านเกิดตัวละครในโลกแห่งความเป็นจริง" จากการ์ตูนเรื่อง ฮันเตอร์ x ฮันเตอร์กันอยู่นะคะ และในตอนที่ 2 นี้ เราจะพาทุกท่านเดินทางข้ามฝั่งจากตุรกีในตอนที่แล้ว ไปยังเมืองแห่งหนึ่งที่สุดจะงดงามโรแมนติก จากประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกันค่ะ ซึ่งเมืองที่ว่านี้ก็คือเมือง ซานโตรินี่ ประเทศกรีซ อันเป็นบ้านเกิดของอีกหนึ่งตัวละครหลัก เลโอลีโอนั่นเอง

แฟนอาร์ตจาก Examinee 403 Leorio

หากจะกล่าวถึงดินแดนสุดโรแมนติกอันเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคู่รักหลายคู่ และนักท่องโลกหลายคน เกาะซานโตรินี่ ประเทศกรีซแห่งนี้ ก็จัดว่าเป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่ผู้คนจะนึกถึง และหวังที่จะมาเยือน ชมความสวยงามให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิต เพราะเมืองซานโตรินี่นั้น นอกจากจะถูกรายล้อมไปด้วยท้องทะเลและหน้าผาสูงชันของปล่องภูเขาไฟที่งดงามแล้ว บ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างสีฟ้า - ขาว ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ยังถูกตั้งอยู่บนพื้นที่บนหน้าผาสูงชัน หันหน้าออกสู่ทะเลอันเป็นปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งเมื่อใครที่เดินทางมายังประเทศกรีซนี้ ก็ไม่พลาดที่จะแวะมาเยี่ยมเยียนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ณ ที่แห่งนี้ด้วย

เกาะซานโตรินี่ ประเทศกรีซ

ซานโตรินี่ เป็นเมืองบนเกาะตอนใต้ของทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ ด้วยความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ เมืองซานโตรินี่จึงถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ที่ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นเกาะอันดับ 2 ของโลก ที่พวกเขาอยากมา โดยเกาะแห่งนี้มีความกว้างประมาณ 16 กิโลเมตร ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 567 เมตร ภูมิอากาศของซานโตรินี่นั้น เหมาะแก่การไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงกลางวันจะอยู่ที่ 29 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน และ 15 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว พื้นที่บางส่วนของเกาะจะมีนักท่องเที่ยวคึกคักเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อน

เกาะซานโตรินี่และประเทศกรีซ บนแผนที่โลก

ด้วยความงดงามสไตล์เมดิเตอเรเนียนแห่งนี้ ที่มีน้ำทะเล ท้องฟ้า และอาคารบ้านเรือนสีสดใส รวมถึงทิวทัศน์ที่สวยสะดุดตา สถาปัตยกรรมดั้งเดิมอันทรงเสน่ห์ที่เก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน โบสถ์ที่มีโดมสีฟ้า ร้านอาหารและคาเฟ่เล็กๆ สไตล์กรีก ทำให้ซานโตรินี่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินมากมาย และก็คงจะรวมถึงอ. โยชิฮิโระ โทงาชิ ผู้แต่งเรื่อง ฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ ที่ได้ต้นแบบจากซานโตรินี่ ไปใส่ไว้ในเนื้อเรื่องให้เป็นบ้าน เป็นสถานที่ที่เลโอลีโอได้เติบโตมาด้วย โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนในอนิเมชั่นปี 1999 ช่วงต้นของเรื่อง

สถานที่ในเรื่อง (บน) และสถานที่จริง (ล่าง)

กิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน นั่นคือการล่องเรือชมหน้าผาหลากสี ซึ่งเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ และการสะสมของเถ้าถ่านกับหินภูเขาไฟในทุกรอบหมื่นปี นอกจากนี้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่ารถหรือแท็กซี่เพื่อชมเกาะได้อย่างสะดวกสบาย โดยมีสนามบินตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะ และมีถนนเชื่อมโยงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ หรือจะเดินทางไปยังหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เดินเล่นชมความสวยงามของหาด โบสถ์ หรือจุดท่องเที่ยวอื่นๆ หากต้องการนอนอาบแดดสบายๆ ที่ซานโตรินี่แห่งนี้ก็มีชายหาดให้เลือกมากมายตามแนวชายฝั่งที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาและโขดหินอีกด้วย

หลังคาโดมสีฟ้าสดของโบสถ์ และหอระฆังสีขาวสะอาดตา

และสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจไม่แพ้กิจกรรมอื่นๆ นั่นก็คือการชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และมีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว 

พระอาทิตย์ตกดิน ณ หมู่บ้านเอีย (Oia) ซานโตรินี่

ท่านใดที่อยากจะสัมผัสความงดงามของเกาะซานโตรินี่ อันเป็นต้นแบบของบ้านเกิดเลโอลีโอแห่งนี้ สามารถค้นคว้าหาข้อมูลได้ตามเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ด่างๆ ได้เลยค่ะ แล้วคุณจะหลงใหล และตกหลุมรักสถานที่ของหนุ่มเลโอลีโอคนนี้อย่างยากที่จะถอนตัวเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกสุดๆ แถมยังมีตัวละครที่มีเสน่ห์สไตล์กรีกอย่างเลโอลีโอ ให้ได้อินกับบรรยากาศกันมากขึ้นอีกด้วย หากมีโอกาส คงไม่พลาดแน่นอนสำหรับการเดินทางไปตามรอยสถานที่แห่งนี้ ที่ซึ่งอ. โยชิฮิโระ โทงาชิ ได้นำมาเป็นสถานที่ต้นแบบให้กับบ้านเกิดของตัวละครในเรื่องค่ะ

หมายเหตุ : การเปรียบเทียบสถานที่ในบทความนี้ ไม่ได้เป็นการการันตีหรือยืนยันชัดเจนโดยตรง ว่าอ. โยชิฮิโระ โทงาชิ ได้นำมาเป็นต้นแบบจริงๆ แต่อย่างใด หากแต่เป็นเพียงการเปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นในมุมของผู้เขียน ซึ่งเป็นแฟนการ์ตูนฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ และสนใจเรื่องการท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ค่ะ

อากิ

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[HxH] เยี่ยมบ้านเกิดตัวละครในโลกแห่งความเป็นจริง ตอนที่ 1 หุบเขาครอบครัวมือสังหาร

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับแฟนๆ การ์ตูนเรื่อง Hunter x Hunter ว่าทางผู้แต่ง อ. โยชิฮิโระ โทงาชิ ได้สร้างโลกใหม่ไว้ในเรื่อง สำหรับดำเนินเรื่องราวโดยเฉพาะ และในบางสถานที่ ก็ได้มีบรรดาแฟนๆ ออกมาแสดงความเห็น และทำภาพเปรียบเทียบถึงความคล้ายคลึงกับสถานที่สำคัญต่างๆ ในแทบจะทั่วทุกมุมโลก และในหัวข้อนี้ เราจะพาทุกท่านมาพบกับบ้านเกิด หรือสถานที่เกิดของตัวละครหลักทั้งสาม คือ คิรัวร์ เลโอลีโอ และกอร์น กันค่ะ

การเปรียบเทียบในที่นี้ ไม่ได้เป็นการการันตีโดยตรงว่าอ. โยชิฮิโระ ได้นำสถานที่จริงในโลกมาเป็นต้นแบบของสถานที่ในเรื่องแต่อย่างใด หากเป็นเพียงแค่การเปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นในมุมของเราที่สนใจเรื่องการท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ค่ะ  

สำหรับในบทความนี้ มาเริ่มกันที่บ้านเกิดของตระกูลมือสังหารชื่อดัง ตระกูลโซลดิ๊กค่ะ


สำหรับใครที่เป็นแฟนเหนียวแน่นของหนุ่มนักฆ่าผมเงิน หนึ่งในสี่ตัวเอกของเรื่อง คิรัวร์ โซลดิ๊ก ก็คงจะคุ้นเคยกับชื่อสถานที่ตั้งบ้านของครอบครัวนี้ ว่าเป็นคฤหาสขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว ณ หุบเขาคูคูลู สาธารณรัฐปาโดเกีย 

หุบเขาคูคูลู จากหนังสือการ์ตูนต้นฉบับ และจากอนิเมชั่นปี 1999

ด้วยชื่อ และสภาพภูมิประเทศ ทำให้ชวนนึกถึงเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศตุรกี นั่นคือเมืองคัปปาโดเกีย ซึ่งมีลักษณะทางภูมิประเทศที่แปลกตาเป็นหินสูงรูปทรงต่างๆ เมืองคัปปาโดเกียนี้เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านของภูเขาไฟกระจายไปทั่วบริเวณเกิดการทับถม รวมถึงผ่านการกัดเซาะของลม ฝน กระแสน้ำ แดด ที่กินเวลาหลายแสนล้านปีจนทำให้เกิดแผ่นดินใหม่นี้ขึ้นมา

เมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี

เมืองคัปปาโดเกียในประเทศตุรกี และหุบเขาคูคูลู สาธารณรัฐปาโดเกียในเรื่อง Hunter x Hunter นั้น ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเหมือนกัน โดยในโลกของความเป็นจริงนั้น เมืองคัปปาโดเกียถือเป็นเมืองเก่าแก่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ คืออยู่ในเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากประเทศตุรกีไปจนถึงประเทศจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี โดยยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) อีกด้วย

ในปัจจุบันนี้ เมืองคัปปาโดเกียได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องโลก โดยในเมืองที่มีลักษณะเป็นหินและภูเขาสูง ก็ได้มีการจัดสร้างเป็นโรงแรม ที่พัก และเกสต์เฮ้าส์ รวมถึงร้านอาหาร และร้านอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ในบางเขตก็ได้มีการอนุรักษ์ไว้เป็นโบราณสถานดั้งเดิม เช่น ภูเขาที่มีการขุดเจาะสำหรับสร้างเป็นโบสถ์ หรือศาสนสถานในสมัยโบราณ รวมทั้งเป็นสถานที่สำหรับให้นักบวชมาเก็บตัวบำเพ็ญภาวนากันด้วย และขอบอกว่าหินภูเขาไฟที่มีสิ่งก่อสร้างอยู่ภายในนี้ เป็นหินอัคนีประเภท Pyroclastic หรือหินกรวดภูเขาไฟ ซึ่งมีความทนทานสูง จึงไม่พังลงมาง่ายๆ

บริเวณที่ได้รับการจัดสร้างเป็นที่พักและสถานบริการสำหรับนักท่องเที่ยว

สำหรับการเดินทางไปยังเมืองคัปปาโดเกีย สามารถเดินทางไปได้โดยเครื่องบินและรถบัส ซึ่งมีการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตามเมืองใหญ่ในประเทศตุรกี ซึ่งก็คล้ายคลึงกับการเดินทางในเรื่อง ที่พวกกอร์นเดินทางไปยังคฤหาสครอบครัวโซลดิ๊กมากๆ ท่านใดที่เป็นแฟนตัวยงทั้งของ Hunter x Hunter หรือของตระกูลโซลดิ๊ก หากมีโอกาสได้เดินทางไปเยี่ยมเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ อาจจะโชคดีเจอไกด์สาวที่ชื่อโคโค่จังบนรถบัสก็เป็นได้นะคะ

และสำหรับท่านใดที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมของเมืองมรดกโลก คัปปาโดเกียแห่งนี้ สามารถหาข้อมูลได้ตามช่องทางสื่อออนไลน์และเว็บไซต์ต่างๆ รับรองว่าเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้มีเรื่องราวอีกมากมายที่น่าสนใจ และมีสิ่งแปลกใหม่ที่รอการค้นพบทั้งในด้านของวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งประวัติศาสตร์ ที่ถ้าทุกท่านได้อ่านแล้ว คงจะเผลอคิดว่าครอบครัวโซลดิ๊กมีตัวตนอยู่จริงๆ ณ เมืองนี้ ในประเทศตุรกีเหมือนเราแน่นอนค่ะ

ที่ตั้งประเทศตุรกีจากแผนที่โลก

สำหรับบทความต่อไป เราจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมบ้านเกิดของอีกหนึ่งตัวละครเอก เลโอลีโอกันค่ะ ขอบอกว่าบ้านเกิดของเลโอลีโอนั้นสวยงามจับใจ ไม่แพ้เมืองคัปปาโดเกียของหนุ่มคิรัวร์แน่นอน อย่าลืมมาติดตามกันด้วยนะคะ

อากิ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[HxH] อุมะฉะ x ชาม้า ? x ชาของคุราปิก้า ?

เหตุผลที่นึกอยากจะเขียนหัวข้อนี้ เนื่องมาจากครั้งหนึ่งเราได้ฟังฮันเตอร์ เรดิโอ จากใน YouTube ค่ะ ใครที่ติดตามฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ตั้งแต่สมัยเวอร์ชั่น 1999 คงจะมีจำนวนไม่น้อยที่ร้องอ๋อ เพราะมันเป็นออดิโอซีดี ที่อัดรายการวิทยุของตัวละครต่างๆในฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ โดยในรายการนั้นก็จะมีหลายช่วงสลับกันไป เช่น ละครดราม่า ช่วงตอบจดหมายจากแฟนๆ ช่วงพบปะนักพากย์ ช่วงเล่นเกมตอบคำถาม ฯลฯ
หากใครสนใจอยากจะฟัง ให้เข้าไปใน YouTube แล้วเสิร์ชคำว่า Hunter Radio หรือ ハンターラジオ มันจะขึ้นมาให้เลือกฟังเยอะแยะเลย แต่ไม่มีซับไตเติ้ล ไม่มีคำอธิบายใดๆ นะคะ อาศัยความรู้ด้านการฟังภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ จ้า

คำว่า "อุมะฉะ" ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็ได้ฟังมาจากฮันเตอร์เรดิโอเช่นกันค่ะ เป็นช่วงเล่นเกมตอบคำถามในเทปหนึ่ง โดยคุราปิก้าเป็นคนตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเอง แล้วให้กอร์นกับคิรัวร์ตอบ มีอยู่คำถามหนึ่ง ที่คุราปิก้าถามว่า "เครื่องดื่มที่ฉันชอบคืออะไร?" กอร์นกับคิรัวร์ก็ผลัดกันตอบ ชาฝรั่งบ้าง ชาสมุนไพรบ้าง แต่ไม่มีใครตอบถูกเลย คุราปิก้าเลยให้คำใบ้มาว่า "ถ้าได้อ่านหนังสือก็น่าจะรู้นะ" แต่ก็ยังไม่มีใครตอบถูกอีก จนคุราปิก้าเฉลยว่าเครื่องดื่มที่ตัวเขาชอบคือ "อุมะฉะ"

แฟนอาร์ตคุราปิก้ากับชาสุดโปรด "อุมะฉะ"

ตอนนั้นงงมากค่ะ อึ้งไปซักพัก ในหัวนึกคันจิออกมาสองตัวคือคำว่า 馬 (อุมะ ที่แปลว่าม้า) กับ 茶 (ฉะ ที่แปลว่าชา) อุมะฉะ... ชาม้า... เฮ้ย! ไม่ใช่มั้ง เลยไปค้นหนังสือการ์ตูนเล่ม 13 เพราะจำได้ว่าเป็นตอนที่คุราปิก้าฟื้นไข้ แล้วมาคุยกับกอร์น ตอนนั้นเขาถือขวดอะไรซักอย่างมาด้วย เดาว่าน่าจะเป็นชา แล้วก็ใช่จริงๆค่ะ ข้างขวดนั้นมีคันจิเขียนไว้ชัดเจนตามที่เราคิดเป๊ะๆ นั่นคือ 馬茶

"อุมะฉะ" จากหนังสือ Hunter x Hunter เล่มที่ 13

พอเจอปุ๊บก็ไม่รอช้า รีบสืบค้นข้อมูลอย่างไว จนสรุปได้ว่าเจ้าชานี้ มันคือ "ชาพุดจีบ" ค่ะ
ใช่แล้วค่ะ มันคือชาที่สกัดมาจากส่วนต่างๆ ของต้นพุดจีบ ซึ่งแหล่งกำเนิดของมันก็ไม่ได้อยู่ไกลที่ไหน อยู่ในประเทศอินเดีย เพื่อนร่วมทวีปเอเชียของเรานี่เอง ซึ่งปัจจุบันก็สามารถหาพบได้ทางป่าภาคเหนือของไทยเราเช่นกันค่ะ

ดอกพุดจีบ หรือ Crepe Jasmine

พุดจีบถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเยอะมาก โดยทุกส่วนของลำต้น ไม่ว่าจะเป็นราก กิ่ง ใบ ดอก ต้น สามารถนำมาสกัดเป็นยาสมุนไพรรักษาอาการป่วยได้มากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดอาการนอนไม่หลับ แก้ผื่นคันตามผิวหนัง แก้ฝีหนองอักเสบ แก้อาการปวดบวม แก้บิด แก้ปวดท้อง ใช้สมานแผล ฯลฯ

และในส่วนที่นำมาสกัดเป็นเครื่องดื่มที่คุราปิก้าพูดถึง ก็คือรากและผลค่ะ ซึ่งมันสามารถสกัดออกมาเป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและตับ ใช้เป็นยาดับพิษร้อน ช่วยแก้อาการร้อนใน ขับน้ำชื้น ทำให้เลือดเย็น แก้ตัวร้อน มีไข้สูง ช่วยลดพิษไข้ คือสามารถเป็นยาแก้ไข้ได้นั่นเอง ซึ่งก็ตรงกับเหตุการณ์ในเรื่อง ที่คุราปิก้าเพิ่งจะฟื้นไข้พอดี ในโลกปัจจุบันของเรายังถือว่าชาพุดจีบนี้ยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่ก็มีบริษัทเครื่องดื่มบางประเทศ บางยี่ห้อ ผลิตเจ้าชาพุดจีบนี้ออกมาเช่นกันค่ะ

ชาพุดจีบ ในเครือบริษัทอาซาฮี ประเทศญี่ปุ่น

ใครที่อยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถหาได้ใน Google นะคะ มีหลายๆ เว็บไซต์ที่บอกสรรพคุณในแต่ละส่วนอย่างละเอียด รวมทั้งลักษณะ แหล่งที่มา ฯลฯ ให้ได้อ่านกันค่ะ พิมพ์คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับดอกพุดจีบนะคะ ใครเผลอไปพิมพ์ชาม้าตามหัวข้อ ไม่เจอนะคะ ^ ^ 


อากิ