วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

[HxH] ลูซิเฟอร์ บุรุษแห่งรัตติกาล

สำหรับใครที่ติดตามการ์ตูนเรื่อง Hunter x Hunter มาอย่างต่อเนื่อง ยามเมื่อมีคนพูดถึง ปิศาจ "ลูซิเฟอร์" หรือลัทธิต่อต้านพระเจ้าซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น "ไม้กางเขนกลับหัว" แน่นอนว่าจะต้องนึกถึงตัวละครผู้เป็นดาวร้ายยอดนิยมในเรื่องอีกหนึ่งคน ซึ่งก็คือ หัวหน้ากองโจรเงามายา "คุโรโร่ ลูซิเฟอร์"
บทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ถึงเรื่องราวที่ชวนให้คิด ว่าตกลงแล้ว บุรุษกางเขนกลับหัวผู้นี้ แต่เดิมแล้วเขาต้องการเป็นผู้ร้ายจริงหรือไม่ นามสกุล "ลูซิเฟอร์" เกี่ยวข้องอะไรกับคุโรโร่ ทำไมจึงต้องเป็นนามสกุลนี้ และสัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของคุโรโร่ มีความหมายแบบไหนในโลกของเรากันแน่ 


คุโรโร่ ลูซิเฟอร์ หรือที่สมาชิกในกลุ่มกองโจรเงามายาเรียกกันว่า หัวหน้า
ชายหนุ่มผู้ฉลาดหลักแหลม สุขุม รอบคอบ ฝีมือร้ายกาจ และเก่งในเรื่องของจิตวิทยาการอ่านใจมนุษย์เป็นที่สุด เกิดและเติบโตในนครดาวตก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครสนใจ เป็นสถานที่ผู้คนสามารถนำทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกมาทิ้งไว้ที่นี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเศษขยะ หรือแม้กระทั่งเด็กทารก ถ้าให้เปรียบเทียบกับโลกของเรา ก็คงเปรียบเสมือนกับประเทศในโลกที่สาม ที่ขาดแคลนในเรื่องต่างๆ และไร้ความช่วยเหลือ ไร้ความเหลียวแล ขาดโอกาสใดๆ ที่จะหยิบยื่นเข้าไป ณ สถานที่แห่งนั้น

ตามเนื้อเรื่องฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ ทางอ. โทงาชิ ผู้แต่ง ไม่ได้กล่าวถึงครอบครัวของคุโรโร่เลยแม้แต่น้อย และนามสกุล "ลูซิเฟอร์" นี้ จึงสามารถตีความไปได้ว่า เป็นนามสกุลที่เจ้าตัวตั้งขึ้นมาเองเพื่อบ่งบอกตัวตนของเขา ที่หันหลังให้กับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก และมองมนุษย์เป็นเพียงก้อนสสารที่มีชีวิต หรือพูดอีกนัยก็คือ ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แบบมนุษย์แล้วนั่นเอง

ซึ่ง "ลูซิเฟอร์" นั้น หลายๆ คนคงเคยได้ยินและคุ้นหูเป็นอย่างดีในเรื่องของจอมมารแห่งปีศาจที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในศาสนาคริสต์

ภาพวาด "ลูซิเฟอร์" โดยจิตรกรชาวต่างชาติ

ลูซีเฟอร์ (Lucifer) มาจากภาษาละติน แปลว่า แสงสว่างของพระเจ้า (ในภาษาละตินออกเสียงว่า ลูชีแฟร์) ในอดีตเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดของอัครเทวดาที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา โดยอัครเทวดาที่เรามักจะคุ้นชื่อกันนั้น ประกอบไปด้วย อัครเทวดามีคาแอล (หรือไมเคิล แปลว่า ฤทธิ์กำลังของพระเจ้า), อัครเทวดาราฟาแอล (แปลว่า โอสถของพระเจ้า) และอัครเทวดาคาเบรียล (แปลว่า ผู้นำสารพิเศษของพระเจ้า) ซึ่งอัครเทวดาเหล่านี้ ถือเป็นเทวดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวรรค์ แต่ด้วยความหลงในอำนาจ คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่เหนือผู้ใด จึงทำให้ลูซิเฟอร์คิดก่อการกบฏต่อพระเจ้า จนสุดท้ายก็ถูกลงโทษให้ตกจากสวรรค์ และกลายมาเป็นปีศาจในที่สุด

เมื่อลูซิเฟอร์ได้พ่ายแพ้และถูกลงโทษ ก็ได้หันมาทำตามความต้องการของตัวเองอีกครั้ง นั่นก็คือ ทำลายล้างโลกมนุษย์ โดยการเข้าไปครอบงำจิตใจของมนุษย์อย่างช้าๆ ชักจูงและครอบงำจิตใจของมนุษย์ด้วยกิเลส ตัณหา ความอิจฉา ความโลภ ที่มีอยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์แต่ละคน ว่ากันว่าจิตใจของมนุษย์มีสองด้าน นอกจากด้านที่ขาวสะอาดบริสุทธิ์ ก็ยังมีอีกด้านของจิตใจที่มีสีดำสนิท นั่นก็คือด้านที่ดีและด้านที่เลวร้ายของมนุษย์นั่นเอง เมื่อถึงเวลา จิตใจของมนุษย์ที่เคยขาวสะอาด ก็จะถูกแปรเปลี่ยนเป็นสีดำมืดที่ถูกแทนที่เข้ามาด้วยบาป ความเกลียดชัง และตัณหาทั้งปวง อำนาจที่ไม่ธรรมดาของลูซิเฟอร์สามารถเข้าครอบงำจิตใจมนุษย์ด้วยบาปนานัปการ หากจิตใจคนผู้นั้นไม่บริสุทธิ์หรือเข้มแข็งพอ ก็อาจจะพ่ายแพ้ให้แก่อำนาจแห่งความมืดของมันอย่างไม่รู้ตัว

ลูซิเฟอร์ถูกพระเจ้าขับไล่จากสรวงสวรรค์

ในทุกวันนี้ ได้เกิดลัทธิใหม่ที่ยกให้ลูซิเฟอร์เป็นพระเจ้าเหนือสรรพสิ่ง และเรียกชื่อของตัวเองว่า "ลูซิเฟอเรี่ยน (Luciferains)" โดนผู้นำของลูซิเฟอเรี่ยน มีความเชื่อคล้ายกับลัทธิบูชาปีศาจหรือซาตานว่า ลูซิเฟอร์เป็นพระเจ้าผู้ถูกเลือก ซึ่งภายหลังได้กลายมาเป็นลัทธินอกรีต และกระจัดกระจายออกไปยังที่ต่างๆ คนบางกลุ่มก็หันมาพึ่งยาเสพติด หรือเสียงเพลงที่ใช้ในการกล่อมประสาทของตัวเอง

ส่วนสัญลักษณ์ที่ใช้แทนลูซิเฟอร์ ก็คือไม้กางเขนกลับหัว โดยมีเลขประจำตัวของลูซิเฟอร์หรือเลขแห่งความโชคร้าย คือเลข 666 ซึ่งแตกต่างจากเลขแห่งความโชคดีของพระเยซูที่เป็น 333
นอกจากพวกเขาจะไม่เชื่อในพระเจ้าแล้ว ยังเย้ยหยันหลักคำสอนและการมีอยู่จริงของพระเจ้า เช่นเดียวกับคนอีกหลายล้านคนที่แสวงหาการมีอยู่จริงของพระเจ้าและนับถือในตัวพระองค์ แต่ในเมื่อมีผู้ศรัทธามากเท่าใด ผู้ต่อต้านก็มีมากขึ้นเช่นกัน ซ้ำยังคิดว่าการบูชาซาตานนั้นเป็นการสักการะสิ่งที่มีอยู่จริง สามารถแสวงหาได้ทุกเมื่อ เมื่อลงมือทำสิ่งใดก็ตามที่นำมาซึ่งบาป ไม่ใช่สิ่งลมๆ แล้งๆ จับต้องไม่ได้ เช่นการบูชาพระเจ้า

ในด้านของคุโรโร่นั้น ส่วนตัวเราคิดว่าจิตใจโดยกำเนิดของคุโรโร่เองก็ไม่ใช่คนไม่ดีมาแต่กำเนิด ไม่งั้นฮิโซกะคงไม่บอกว่า "บางครั้ง แก๊งแมงมุมก็ทำเรื่องดีๆ เหมือนกัน" แต่ด้วยความที่คุโรโร่เติบโตมาอย่างไม่มีใครเหลียวแล และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ได้เห็นว่ามนุษย์มีความดีหรือความชั่วร้ายมากกว่ากัน มองเพียงมนุษย์เป็นมวลสสารที่มีชีวิต และเคลื่อนไหวได้ จึงไม่คิดว่าความดีหรือความเลวเป็นสิ่งสำคัญ จึงไม่เชื่อในพระเจ้าแบบที่คนทั่วๆ ไปเชื่อ เขาเลือกที่จะหันหลัง และให้ค่ากับสิ่งที่เห็นว่าจับต้องได้มากกว่า ซึ่งก็ได้กล่าวไปแล้วว่าการบูชาซาตาน ถือเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และนำชื่อของลูซิเฟอร์ มาเป็นนามสกุลของตน และใช้สัญลักษณ์ประจำตัวเป็นไม้กางเขนกลับหัว เพื่อที่จะบอกว่า เขาไม่มีความเชื่อใดๆ เกี่ยวกับพระเจ้า และหันหลังให้โดยสิ้นเชิง


สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัวนั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในลัทธิซาตานตั้งแต่สมัยยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคที่มนต์ดำเฟื่องฟู ผู้คนเชื่อเรื่องแม่มด หมอผี และปีศาจ เมื่อมีลัทธิหรือศาสนาใดแปลกๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นมา และมีหลักคำสอนขัดแย้งกับคำสอนของพระเจ้า ก็จะมีการใช้สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัวในลัทธินั้นๆ เพื่อแสดงตนว่าเป็นปรปักษ์กับพระเจ้า หรือเป็นผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง โดยความเชื่อนี้ก็ได้เผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง จึงทำให้บางคนเข้าใจผิดว่า สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัวนั้น คือสัญลักษณ์ของผู้ที่ต่อต้านพระเจ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ไม้กางเขนกลับหัวจึงมีภาพลักษณ์เชิงลบที่ขัดกับความเชื่อ และเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจและซาตาน

สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัว

หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของนักบุญเปโตรมาตั้งแต่ก่อน ค.ศ. 500 โดยสมัยนั้นเป็นสมัยกวาดล้างศาสนาคริสต์ ผู้ใดนับถือหรือชักจูงผู้คนให้เข้าสู่ศาสนาจะต้องโทษหนักถึงประหารชีวิต ซึ่งนักบุญเปโตรก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกจับในระหว่าสั่งสอนและเทศนาให้ชาวบ้านกลับใจมานับถือศาสนาริสต์ จึงได้รับการตัดสินโทษด้วยการประหารชีวิตโดยการตรึงกางเขน แต่ท่านไม่อยากตีตนเสมอพระเยซูซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่าน จึงรับสั่งให้เพชรฆาตนำกางเขนของตนกลับหัวลงดิน และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนั่นเอง และคนส่วนมากก็คุ้นเคยกับสัญลักษณ์ของท่านที่เป็นกุญแจสองดอกซึ่งหมายถึงกุญแจแห่งสวรรค์ มากกว่าที่จะคุ้นเคยกับไม้กางเขนกลับหัว 

และในบทความนี้ ก็เป็นการวิเคราะห์เชื่อมโยงเล็กๆ น้อยๆ จากนามสกุลและสัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัวของคุโรโร่ รวมทั้งมีเรื่องราวที่มาของชื่อและสัญลักษณ์ให้ได้อ่านทำความเข้าใจกันด้วย จริงๆ แล้วจะบอกว่าคุโรโร่เป็นตัวละครที่เราให้ความสนใจค่อนข้างน้อย อาจจะมีขาดตกบกพร่อง หรือไม่ถูกใจท่านใดไปบ้าง ก็คงต้องขออภัยด้วย หากใครมีความเห็นใดๆ สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ทั้งในบล็อกนี้ และในแฟนเพจเฟซบุ๊ค โลกฮันเตอร์ของอากิ (https://www.facebook.com/akihxhworld/) เลยนะคะ ยินดีรับฟังและร่วมแลกเปลี่ยนกันทุกความคิดเห็นค่ะ และสุดท้าย ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ค่ะ


อากิ

2 ความคิดเห็น:

  1. เขาไม่เลือกวงที่มีแต่เขากลับมองสิ่งที่อยู่นอกวงกลมตรงกลางหน้าผากนั้น

    ตอบลบ